สลด ทำร้ายร่างกายเด็ก 3 ขวบดับ! แม่ไว้ใจฝากให้เพื่อนดูแล สารภาพพลั้งมือ
สลดหนูน้อยวัย 3 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกายจนสิ้นใจ หลังแม่พาเข้าพักในบังกะโลเมืองปราจีนบุรี ก่อนออกไปทำธุระ ได้ฝากให้เพื่อนชายกับแฟนช่วยดูแล จู่ๆต้องนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลปั๊มหัวใจกว่า 40 นาทีไม่ฟื้น สุดท้ายดับ คนดูแลอ้างเด็กพลัดตกเตียงหัวกระแทกพื้น ปู่มาเห็นศพหลานไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ ให้แพทย์ชันสูตรพบขั้วหัวใจฉีกขาด ขั้วปอดช้ำมีเลือดคั่งอยู่ในปอด ตำรวจล็อกตัวเพื่อนแม่เค้นสอบปากคำจนยอมรับสารภาพ อ้างพลั้งมือทำร้ายเด็กไม่ได้ตั้งใจ เพราะรู้สึกรำคาญที่เด็กร้องไห้งอแง
ตีเด็ก 3 ขวบเสียชีวิต แม่ฝากเพื่อนไว้ สารภาพพลั้งมือ ปู่สุดทนเข้าแจ้งดำเนินคดีกับเพื่อนแม่ ทำร้ายหลานชายวัย 3 ขวบเสียชีวิตทุรน เปิดเผยเมื่อบ่ายวันที่ 15 มี.ค. นายเฉลิมพล พุ่มพิมล อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3-398 ถนนชลประสิทธิ์ เขตเทศบาลเมืองนครนายก นำผลชันสูตรศพของ ด.ช.กฤษดา หรือน้องธันวา พุ่มพิมล วัย 3 ขวบ หลานชาย เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ธนกร ซื่อตรง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ทำร้ายร่างกายหลานชายเป็นสาเหตุที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต คดีนี้สืบเนื่องจากช่วงสายวันที่ 13 มี.ค. ด.ช.กฤษดา หรือน้องธันวา ถูกนำตัวส่ง รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ผู้นำมาส่งอ้างว่าเด็กพลัดตกเตียง ทำให้ศีรษะกระแทกพื้น สมองกระทบกระเทือน จนอาการสาหัสไม่ได้สติไม่รู้สึกตัว เหตุเกิดขณะเข้าพักกับผู้ปกครองที่เบสท์ บังกะโล ถนนสุวรรณศร ต.โคกไม้ลาย อ.เมืองปราจีนบุรี ต่อมาช่วงบ่าย น้องธันวาได้เสียชีวิตลง แต่จากสภาพศพมีร่องรอยคล้ายถูกทำร้ายร่างกาย ศีรษะและใบหน้ามีลักษณะปูดบวม ตามลำตัวมีรอยเขียวช้ำเป็นจ้ำ นายเฉลิมพล ปู่ของเด็ก ได้ขอให้แพทย์ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ ผลการชันสูตรพบบาดแผลคล้ายถูกทุบตีด้วยของแข็งบริเวณท้ายทอย ขั้วหัวใจฉีกขาด ขั้วปอดช้ำมีเลือดคั่งอยู่ภายในปอด เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิตลง จากนั้นเย็นวันที่ 14 มี.ค. ร.ต.ท.ธนกร ซื่อตรง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่ห้องพักเบสท์ บังกะโล พบนายพงศทร นาดี พร้อมพรรคพวกรวม 3 คน กำลังเก็บเสื้อผ้าเตรียมที่จะหลบหนีออกจากที่พัก ตำรวจจับกุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี และทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ปรากฏว่านายพงศทรมีปัสสาวะสีม่วง ส่วนเพื่อนอีก 2 คน ไม่พบสารเสพติดจึงได้ปล่อยตัวทั้ง 2 คนกลับไป ส่วนนายพงศทรควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีข้อหาเสพสารเสพติด ส่วนเรื่องการทำร้ายน้องธันวา นายพงศทรให้การปฏิเสธ อ้างว่าเด็กตกเตียงลงมาเอง จากการสอบสวนขยายผลทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ช่วงสายวันที่ 13 มี.ค. น.ส.เมษา หอมสมบัติ มารดาของน้องธันวา ได้พาลูกชายมาเปิดห้องพักบังกะโลที่เป็นสถานที่เกิดเหตุ พร้อมนายพงศทรเพื่อนชายและแฟนสาวของนายพงศทรแจ้งกับผู้ดูแลบังกะโลว่า จะเช็กเอาต์ออกใน วันที่ 15 มี.ค. จากนั้น น.ส.เมษาได้ฝากลูกชายไว้กับนายพงศทรและแฟนสาว ก่อนออกไปหาเพื่อนอีกคน ช่วงเวลาที่ น.ส.เมษาไม่ได้อยู่ด้วย น้องธันวาร้องไห้งอแงและซุกซนตามประสาเด็กเล็ก ทำให้นายพงศทรที่อยู่ในอาการเมายาเสพติด ทำการลงมือทุบตีเด็กจนบาดเจ็บสาหัสก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังได้รับผลชันสูตรศพจากแพทย์ ตำรวจสอบปากคำนายพงศทรอีกครั้ง ในที่สุดยอมรับสารภาพว่า ทำร้ายร่างกาย ด.ช.กฤษดา จริง แต่ไม่ได้มีความตั้งใจ เป็นการพลั้งพลาดเพราะรู้สึกรำคาญที่เด็กงอแง ตำรวจได้คุมตัวไว้ดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย น.ส.จินตนา ชาวลาว น้าสาวของเด็ก กล่าวว่า บ่ายวันเกิดเหตุมีโทรศัพท์จากโรงพยาบาลแจ้งข่าวมาว่าน้องธันวาอาการไม่สู้ดี ขอเบอร์แม่น้องหรือญาติ ตนถามว่าหลานเป็นอะไร เจ้าหน้าที่บอกว่าได้รับแจ้งว่าน้องตกเตียงหัวฟาดพื้น ปั๊มหัวใจ 40 นาที ชีพจรไม่ขึ้น อยากให้ญาติมาตัดสินใจ ตนจึงได้โทรถามคนที่อยู่ด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมน้องธันวาถึงหัวใจไม่เต้น และรีบโทรติดต่อไปหาปู่กับย่าที่อยู่ จ.นครนายก หลังจากที่น้องเสียชีวิต ทางปู่เห็นศพแล้วไม่เชื่อว่าตกเตียง หมอบอกว่ารอยปูดที่หัวไม่ได้ทำให้เสียชีวิต แต่เป็นเพราะปอดกับหัวใจฉีก น่าจะเกิดจากการเขย่า ส่วนรอยปูดที่หัวน่าจะเกิดจากการทุ่มตัวเด็ก ปกติหลานชายจะอาศัยอยู่กับยายและแม่ของเด็ก วันเกิดเหตุยายได้เดินทางกลับบ้านที่ จ.อุดรธานี โดยปกติแม่ของเด็กไม่ได้ทำงาน พ่อของเด็กต้องโทษอยู่ในเรือนจำ ส่วนศพของน้องธันวาจะตั้งสวดที่วัดอินทาราม อ.เมืองนครนายก ก่อนฌาปนกิจบ่ายวันที่ 18 มี.ค.นี้