พ่อเมืองปราจีนบุรี กินผลไม้อวดสื่อ ปลอดสารกัมมันตรังสี “ซีเซียม-137” บุกไปทําเนียบ วอนแก้ปัญหา เรียกร้อง 3 ข้อ

       ภาคประชาสังคมชาวปราจีนบุรีบุกยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาจัดการเรื่องของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 แบบเบ็ดเสร็จทั้งหมด ไม่ใช่เพียงเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น วิตกกังวลว่าจะสร้างปัญหาให้กับพื้นที่ในระยะยาว ด้านพ่อเมืองปราจีนฯ นำทีมงานลุยชิมผลไม้ถึงต้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าของว่าไร้สารปนเปื้อน มั่นใจทุกสวนมีความปลอดภัย ผวาอีกพบวัสดุฝุ่นสีแดงในถุงบิ๊กแบ็กถูกเผากลางทุ่งนาในพื้นที่กว่า 50 ตัน หัวหน้าคนงานอ้างเป็นพวกตะกั่วทองแดง

       พ่อเมืองปราจีนบุรี กินผลไม้อวดสื่อ ไร้สาร “ซีเซียม-137″ บุกไปทําเนียบ วอนแก้ปัญหา ชาวบ้านในพื้นที่คงยังวิตกกังวลกับสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำบริษัท เนชั่น แนลเพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จนกระทั่งไปพบอยู่ที่โรงหลอมเหล็กของบริษัท เค ที พี สตีล จำกัด อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ปะปนอยู่ในฝุ่นแดงที่ได้จากการหลอมเหล็กบรรจุถุงบิ๊กแบ็กจำนวน 24 ใบ วางอยู่ในพื้นที่ปิดกั้นของโรงหลอม แม้ว่าผลการตรวจร่างกายคนงานภายในโรงหลอมจะยังไม่คงพบ การปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี แต่ประชาชนก็ยังคงไม่มั่นใจหลังจากที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างพืชผลทางการเกษตรถูกตีกลับคืน ก่อนพร้อมใจกันปักธงขาวหน้าบ้านเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแสดงความรับผิดชอบเข้าช่วยเหลือ ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 มี.. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ภาคประชาสังคมชาวปราจีนบุรี นำโดยนายวิโรจน์ น้อยสำเนียง ยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่อขอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาดูแลแก้ไขปัญหาเรื่องสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 หลังจากที่มีการตรวจพบว่าวัสดุดังกล่าวนั้นที่หายได้ถูกนำมาหลอมในพื้นที่ เกรงว่าอาจจะส่งผลต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้ นายวิโรจน์กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเปรียบเสมือนไฟไหม้จังหวัดปราจีนบุรี หนักกว่าน้ำท่วมปี 56 เพราะผลกระทบครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นวงกว้างอย่างมหาศาล อาทิ กระทบกับเรื่องงาน การท่องเที่ยว กระทบพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่ที่ถูกยกเลิก“ภาคประชาสังคมชาวปราจีนบุรีอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนี้ออกมาให้ข้อมูลอย่างชัดเจนว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมาจากอะไร ขณะนี้ดำเนินการแก้ไขปัญหาไปถึงไหนแล้ว ไม่ใช่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น เพราะต้องดำเนินการแก้ไขและทำให้ชัดเจนอย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นผลกระทบจะเกิดกับชาวปราจีนบุรีโดยไม่สิ้นสุดง่ายๆ ฉะนั้นภาคประชาสังคมฯขอเรียกร้องให้นายกฯตั้งกรรมการระดับชาติเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหานี้โดยด่วนภายใน 1 สัปดาห์ โดยมีภาคประชาสังคมร่วมเป็นกรรมการด้วย” นายวิโรจน์กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เข้ายื่นหนังสือต่อนายกฯแล้วช่วงบ่ายวันเดียวกัน ภาคประชาสังคมชาวปราจีนบุรี จะไปยื่นหนังสือที่ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขอให้ตรวจสอบเรื่องธรรมาภิบาลและจริยธรรมกับบริษัทต้นทางของสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่สูญหายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจนสร้างผลกระทบให้กับชาวบ้านในพื้นที่อย่างกว้างขวาง ช่วงสายวันเดียวกัน นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี นำเจ้าหน้าที่ชุดสุขภาพจิต ลงพื้นที่รับทราบถึงปัญหาและความต้องการของประชาชนที่ปักธงขาวอยู่บริเวณหน้าบ้าน เนื่องจากอยู่ในรัศมีรอบโรงงานในระยะ 5 กม. โดยมีนายธีระเดช บุญญาบูรณกิจ หนึ่งในชาวบ้านที่ปักธงขาวเรียกร้องความต้องการมี 3 เรียกร้อง ประกอบด้วย 1.ให้ตรวจเลือดประชาชนในพื้นที่ที่สงสัยทุกๆ 6 เดือน เป็นระยะเวลา 5 ปี 2. หากเกล็ดเลือดผิดปกติต้องได้รับการรักษาฟรีทันทีพร้อมค่าเยียวยา และ 3.ขอตรวจหารังสีรอบที่พักอาศัย ระหว่างลงพื้นที่มีการโต้เถียงกับชาวบ้านที่ยังเข้าใจไม่ตรงกัน กระทั่งได้ข้อสรุปว่าเจ้าหน้าที่ อบจ.ปราจีนบุรี รับข้อเสนอข้อแรกได้มีการสั่งการให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เข้ามาเจาะเลือดกับประชาชนที่มีความสมัครใจจะเจาะเลือดในเวลา 15.00 น. ส่วนข้อเสนออื่นๆ อบจ.และสาธารณสุขจังหวัดรับไปเสนอจังหวัดเพื่อวางนโยบายสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนต่อไปส่วนที่ห้องประชุม อบต.หาดนางแก้ว ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี นายรณรงค์ นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี นำเจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติไปแนะนำเครื่องมือวัดค่ารังสี โดยใช้ตัวอย่างดิน น้ำ อากาศและผลไม้ที่มาจากสวนในพื้นที่ใกล้กับบริเวณโรงงานหลอม ทั้งนี้ ผลจากกลุ่มตัวอย่างไม่พบการปนเปื้อนของกัมมันตรังสีซีเซียม-137 แต่อย่างใด จากนั้นคณะของ ผวจ. ปราจีนบุรีได้ทำการชิมผลไม้ที่นำมาจากสวนในพื้นที่ใกล้โรงงานหลอม รวมถึงนำเครื่องมือไปสแกนหารังสีในสวนผลไม้ด้วยเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับชาวบ้านว่ามีความปลอดภัยจากการฟุ้งกระจายของสารกัมมันตรังสี ด้าน ร.ต.ท.อัศวิน สร้อยมณี อายุ 66 ปี เจ้าของสวนผลไม้ ได้กล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่นำเครื่องมือมาทำการวัด ทำให้เกิดความเชื่อมั่น มีความสบายใจขึ้น ทุกส่วนมาดูและเห็นกับตาว่าของเราปลอดภัยก็จะช่วยกันรณรงค์ว่าสินค้าของจังหวัดปราจีนบุรีที่ส่งออกไปนั้นมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน เพราะได้มีการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เห็นแล้ว ระดับท่านผู้ว่าฯมารับประทานให้เห็นก็มั่นใจขึ้นวันเดียวกัน มีรายงานว่าชาวบ้านพบถุงบิ๊กแบ็ก อยู่บริเวณกลางทุ่งนา หมู่ 4 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเรือนของประชาชนประมาณ 3 กม. ภายในถุงบรรจุวัสดุคล้ายฝุ่นเศษสีแดงหรือเศษเหล็กเศษทองแดง รวมกันมีนำหนักประมาณ 50 กว่าตัน นายโกศล พรพรม อายุ 55 ปี หัวหน้าคนงานที่เผาวัสดุดังกล่าวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ไปรับซื้อวัสดุดังกล่าวมานั้นมาจาก จ.ชลบุรี ในราคา กก.ละ 1 บาท นำมาผ่านการเผาโดยใช้ถัง 200 ลิตรผ่าครึ่ง พอเย็นตัวลงก็จะนำกลับไปใส่ถุงบิ๊กแบ็กส่งกลับคืนบริษัทต้นทางจะได้ค่าตอบแทนกก.ละ 10-12 บาท ทราบเพียงว่าเป็นพวกตะกั่วทองแดง โดยไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมอย่างไรหรือไม่

Similar Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *