ดาบตำรวจโหมทำงานหนักจน ป่วยเป็นโรคอ้วน เบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้
คลิปตำรวจสายตรวจ มีรูปร่างลักษณะร่างกายตุ้ยนุ้ยนั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ ถูกแชร์ลงบนแอปติ๊กต่อก จนมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เมื่อสอบถามไปยังต้นสังกัดพบว่านายตำรวจคนดังกล่าวนี้มีอาการป่วย แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไม่มีความบกพร่อง กลับถูกบูลลี่ ทำให้ต้องย้ายเวรการทำงานไปอยู่เวรกลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงและหนีจากสายตา คำดูถูก ป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ
ดาบตำรวจมานพ วงษ์นารี ผบ.หมู่ สภ.เมืองสมุทรสาคร มีอายุ 50 ปี เปิดเผยกับทีมข่าวว่า อาการอ้วน เกิดจากฮอร์โมนที่ทำงานผิดปกติ ตรวจเจอเมื่อหลายปีก่อน หมอบอกว่าเกิดจากการที่พักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะตำรวจมักจะทำงานและพักผ่อนไม่เป็นเวลา ต้องมีการสลับเข้าเวรกลางคืน ส่งผลให้เกิดภาวะที่ฮอร์โมนทำงานผิดปกติการเผาผลาญอาหารของร่างกายมีความผิดปกติ เมื่อต้องเข้าเวรกลางคืนก็ต้องมีการรับประทานอาหาร ไม่อย่างนั้นก็จะหิวทำงานไม่ได้ แต่พอสลับเวรมาเข้ากลางวัน ต้องกินข้าวผิดเวลาไปจากเดิม พอสะสมเป็นเวลานาน จึงทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติ จากที่มีน้ำหนักปกติอยู่ที่ 70 กิโลกรัม ก็ขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนนี้หนักอยู่ที่ 218 กิโลกรัม หมอให้คำแนะนำว่า ต้องผ่าตัดเพื่อเย็บกระเพาะ หรือต้องลาออกจากราชการเพื่อเป็นการพักฟื้น แต่ตนเป็นคนที่มีต้นทุนชีวิตน้อย ต้องรับราชการ เพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัวและลูก ประกอบกับค่าผ่าตัดที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากกว่า 2 แสนบาท และไม่สามารถที่จะเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ เลยปล่อยปละละเลยมาเรื่อยๆ แต่ต้องไปพบแพทย์ประจำ อาการเริ่มแรก คือ ตัวบวม ค่าน้ำตาลในเลือดสูง เรื้อรังจนเป็นเบาหวาน ความดัน นอนไม่หลับ ไอกรน เฉลี่ยค่ายาในการรักษาต่อเดือน 3,000 – 4,000 บาท โดยยาส่วนนี้ เป็นยานอกบัญชีการเบิก โรคอ้วนที่เป็นอยู่ไม่ส่งผลกระทบกับงานที่ทำ เพราะทำหน้าที่สายตรวจตามชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่พอเห็นตนก็มักจะถามว่าเป็นโรคอะไร พออธิบายชาวบ้านก็เข้าใจ และทักทายเสมอเวลาเข้าไปในพื้นที่ “เราเป็นตำรวจที่ป่วยกาย ไม่ได้ป่วยใจ ช่วยเหลือประชาชนได้ ไม่ให้ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด ถ้างานยาก จะเรียกให้เพื่อนที่โรงพักมาช่วย ที่ผ่านมามักจะถูกบูลลี่ จากคนที่ไม่เข้าใจ เคยมีคนถ่ายคลิปขณะที่กำลังทำงาน แล้วไปโพสต์ในโลกโซเชียลว่า ตำรวจทำไมอ้วนขนาดนี้ แต่เพียงเพราะคนที่โพสต์ไม่รู้ว่าป่วย ระยะแรกที่ถูกบูลลี่ เคยปรึกษาผู้บังคับบัญชา ท่านแนะนำว่า ตำรวจต้องให้บริการประชาชน บางคนอัดคลิปไปโพสต์ต่อ แต่เราต้องทำหน้าที่ให้ดี ตำรวจคือคนของสังคม แม้ถูกด่าก็ต้องหนักแน่น” ที่ผ่านมาสังคมไทยมักตั้งมาตรฐานว่า ตำรวจต้องมีหุ่นที่ดี แต่ไม่นึกว่าบางคนมีอาการป่วย สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ เวลาทำงาน ถ้าคนนั้นไม่ชอบ ก็แค่ทำงานของตัวเองให้เสร็จสิ้น แล้วรีบกลับโรงพัก ไม่ต้องไปโชว์ตัว หรือแสดงออกให้คนอื่นเห็นมากนัก “ผมมักจะทำงานในช่วงกลางคืน เพราะกลางวันอาจเป็นที่สังเกตของคนที่ไม่เข้าใจ บางคนมาแอบถ่ายไปลงโซเชียล ทั้งที่ใจของเราก็อยากที่จะช่วยประชาชน แต่บางคนมองแค่รูปร่างลักษณะภายนอก” ขณะนี้ พอมีการแชร์บนโลกโซเชียลมากขึ้น ผู้บังคับบัญชาได้ประสานกับโรงพยาบาลศิริราช เพื่อช่วยเหลือในการผ่าตัด ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกินกว่านี้จะเบิกได้ เพื่อนๆ จะช่วยกันสมทบทุน และเปลี่ยนให้มาทำงานบนโรงพักแทนการเป็นสายตรวจ จนกว่าการผ่าตัดจะเสร็จสิ้น “ผมท้อได้เป็นบางครั้ง แต่ท้อตลอดชีวิตไม่ได้ ผมอยากให้ทุกคนที่ท้ออยู่ หันมาลุกขึ้นสู้ เชื่อว่าการทำความดี ไม่เป็นสิ่งที่ผิดแน่นอน อย่างน้อยชาวบ้านก็เอ็นดูเรา ถึงจะมีความพิการทางร่างกาย แต่ชาวบ้านก็ช่วยเหลือผม คอยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ ผมจะสู้ จนกว่าจะไม่ไหว เมื่อใดที่นายบอกว่าผมไม่ไหว ก็พร้อมพิจารณาตัวเอง” พต.ท.โสภาส ถนนทิพย์ สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสมุทรสาคร ฐานะผู้บังคับบัญชา กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานทางผู้ใหญ่ เพื่อติดต่อแพทย์ให้ทำการผ่าตัดรักษาอาการอ้วน ที่ผ่านมา ดาบตำรวจมานพ ไม่มีความบกพร่องในการทำงานช่วยเหลือประชาชน ตอนนี้ได้ย้ายให้มาทำงานบนโรงพัก ระหว่างรอการผ่าตัด และจะได้พักฟื้น ส่วนค่าใช้จ่ายการผ่าตัด ที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ กำลังปรึกษากับ คณะกรรมการ ก.ตร. ในพื้นที่ทำการช่วยเหลือต่อไป.