ผวา คนร้ายบุกข่มขืนครูผู้ช่วยแต่หนีรอดมาได้ ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน ครูเวรมีเพื่ออะไร
ครูผู้ช่วยยังคงรู้สึกผวาหนัก หลังจากที่คนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายร่างกาย หวังข่มขืนแต่โชคดีที่หนีรอดมาได้ ถามหาความปลอดภัยของครูอยู่ที่ไหน ครูเวรยังจำเป็นอยู่ไหม
วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้แชร์เรื่องราวที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในโรงเรียน (ขนาดเล็ก) แห่งหนึ่ง หลังจากที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาทำร้ายร่างกายครูถึงภายในโรงเรียน โดยระบุข้อความว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อวันอังคาร ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เป็นเรื่องจริง ช่วงเวลา 17.30 น. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ยิ่งย้ำชัดเจนเลยว่าความปลอดภัยในโรงเรียน (ขนาดเล็ก) เป็นศูนย์ ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยอีกต่อไป ความปลอดภัยในชีวิตครูอยู่ที่ไหน? น้องครูผู้ช่วยทักหา ว่ามีคนแปลกหน้ามาถึงในโรงเรียน แล้วได้ถ่ายรูปคนแปลกหน้าส่งมาให้เราดู เราจึงบอกน้องไปว่า ให้รีบหนีออกจากโรงเรียน ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่โรงเรียน เวลาผ่านไปสักระยะไม่กี่นาที น้องครูผู้ช่วยโทรหาคล้ายกับขอความช่วยเหลือ พี่อยู่ไหน? มันถามน้องว่าอยู่บ้านพักครูคนเดียวเหรอ? ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้อยู่ใกล้โรงเรียนเลย ได้ตอบน้องกลับไปว่าพี่อยู่ในเมือง กำลังจะกลับ ตอนนี้มันอยู่ รีบหนีขึ้นรถ หนีออกมาก่อน ลางสังหรณ์ใจไม่ดีแล้ว เวลาผ่านไปสักพัก แฟนน้องครูผู้ช่วยโทรหาว่าติดต่อแฟนไม่ได้เลยรบกวนพี่ติดต่อให้หน่อย ทั้งเราและแฟนน้องครูผู้ช่วย พยายามติดต่อน้องครูผู้ช่วย ซึ่งโทรติดแต่ไม่มีใครรับสาย ครูที่โรงเรียนก็โทรมาถาม ไม่นานเลยมีเบอร์แปลกโทรมาหา ถามว่าครูอยู่ไหน รีบมาโรงเรียน และก็มีชาวบ้านโทรเฟซมาหาให้รีบมา ในใจภาวนาอย่าให้มีใครเป็นอะไรเลย พอเดินทางไปถึงโรงเรียน บริเวณหน้าโรงเรียนเต็มไปด้วยชาวบ้าน ใจก็เสียไปแล้วระดับนึง พอเห็นหน้าน้องครูผู้ช่วยก็ปล่อยโฮ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก #คนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายขณะที่จะล็อกประตูบ้านพักครูทำร้ายร่างกายน้องครูผู้ช่วยเพื่อหวังจะข่มขืน แต่วิ่งหนีออกจากโรงเรียนมาได้ และได้มาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณหน้าโรงเรียน ทั้งนี้เจ้าของโพสต์ ได้อ้างอีกว่า กว่าจะจับคนร้ายได้ใช้เวลาไปร่วมชั่วโมง เพราะอะไรนั้นเหรอ
– แจ้งตำรวจไปแล้ว มีตำรวจอยู่ในพื้นที่ แต่ไม่สามารถจับได้ต้องรอกำลังเสริม
– กำนันมาถึงที่เกิดเหตุขึ้นแล้ว แต่ต้องโทรประสานชมรม
– ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มาถึงแล้ว แต่ต้องกลับไปใส่ชุด ถ้าไม่มีชุดไม่สามารถจับคนร้ายได้ (อิหยังวะ)
ซึ่งชาวบ้านไม่สามารถไปจับคนร้ายได้ ต้องรอตำรวจก่อน ตำรวจพื้นที่สั่งไว้ เดี๋ยวมันเกินกว่าเหตุ ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือคนร้ายเคยก่อเหตุเผาบ้านตัวเอง และทำร้ายคนในหมู่บ้านมาแล้ว และได้ถูกปล่อยตัวออกมา คนร้ายยังมีพฤติกรรมที่ลักขโมย จนกระทั่งมาก่อเหตุอีกครั้ง ตำรวจบอกว่าคนเสพยาบ้ามีเยอะมากต้องดูแลตัวเองตำรวจจับไม่ไหวหรอก คำถามเกิดขึ้นในใจมากมาย… มันมีเยอะมาก
1. เรามีความปลอดภัยของผู้เรียน แล้วความปลอดภัยในชีวิตครูอยู่ที่ไหน?
2. เลิกมองว่าครูต้องเสียสละ ยิ่งเป็นครูตามชนบทแล้ว ครูคืออาชีพอาชีพนึง
3. โรงเรียนขนาดเล็ก ให้ครูเป็นทุกอย่างไม่ได้ (เราทำทุกอย่างจริงๆ) ก่อนจะยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคืนครูให้ห้องเรียน คืนครูให้ครบชั้นก่อน
4. เรื่องครูอยู่เวร ยังไม่เข้าใจระบบนี้เลย การให้ครูอยู่เวรยาม เกิดเหตุอะไรขึ้นใครจะมารับผิดชอบชีวิตครู มาห่วงแต่ทรัพย์สินทางราชการแต่ไม่ห่วงความปลอดภัยในชีวิตครู เราจะมีวิธีเยียวยายังไง ไม่ว่าอย่างไร หลังจากเรื่องดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะ ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยผู้คนส่วนใหญ่ได้ให้กำลังใจครูผู้ช่วย และบางส่วนได้ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของครูเวร ที่มีความสำคัญอย่างไร เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของครู จากการสอบถามกับเจ้าของโพสต์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุทางผู้บริหารได้ร่วมมือกับผู้นำชุมนุมและภาคีเครือข่าย ประชุมหาแนวทางการป้องกัน โดยทางชุมชน ได้จัดให้มีอาสาสมัครมาดูแลความปลอดภัยในโรงเรียน
แล้วนอกจากนี้สภาพจิตใจของครูผู้ช่วยก็ยังคงไม่ดี ยังคงมีความรู้สึกผวา และอยากให้ยกเลิกการอยู่เวรครู ไม่ว่าจะเป็นครูผู้หญิงหรือครูผู้ชายก็ตาม อยากให้มี รปภ. อยู่ทุกโรงเรียน ตามลงที่โรงเรียนขนาดเล็ก ต้องมีหน่วยงานเข้ามาจัดการดูแล.